วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

ความเหมือนของ3มหาลัยดังที่ใครๆหลายๆคนอาจยังไม่เคยรู้

ข้อที่ 1
ในปีพุทธศักราช 2486 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯจากในหลวงรัชกาลที่ 8 สถาปนามหาวิทยาขึ้นพร้อมกัน 3 แห่งในปีเดียวกันนั่นก็คือ...

- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ศาสตร์แห่งแผ่นดิน






มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดล)
ปัญญาของแผ่นดิน




- มหาวิทยาลัยศิลปากร
"ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น"



ข้อที่ 2
ได้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งไว้ในกรุงเทพมหานคร ทั้ง 3 มหาวิทยาลัย
ข้อที่ 3
และต่อมาทั้ง 3 มหาวิทยาลัยได้มีการจัดตั้งวิทยาเขตขึ้นในจังหวัดนครปฐมอีกด้วยคือ...
- มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา
- มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน
ข้อที่ 4
ทั้ง 3 มหาวิทยาลัยล้วยได้สนองงานการศึกษาถวายแด่พระบรมวงค์ศานุวงศ์หลายพระองค์คือ...
มหาวิทยาลัยศิลปากร
- สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ปริญญาโท คณะโบราณคดี
- พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ปริญญาตรี/โท คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพิมพ์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์
- พระเจ้าวรวงเธอพระองค์เจ้าศรีรัชมิ์พระวรชายาฯ ปริญญาโท คณะเกษตร
มหาวิทยาลัยมหิดล
- สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ปริญญาโท/เอก คณะวิทยาศาสตร์
ข้อที่ 5
มหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งยังใช้ดวงตราพระราชทานโดยดวงตราสัญลักษณ์ของ ศิลปากรและเกษตรศาสตร์ เป็นดวงตราโบราณที่มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ส่วนของมหิดลเป็นดวงตราประจำพระองค์ของสมเด็จพระบรมราชชนกในรัชกาลปัจจุบัน
และมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งยังได้รับการยอมรับทั้ง 3 ด้านคือ
- มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นมหาวิทยาลัยแพทยและการสาธารณะสุขแห่งชาติ
- มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นมหาวิทยาลัยศิลปะและการออกแบบแห่งชาติ
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตรและวิศวกรรมสมัยใหม่แห่งชาติ
ทั้ง 3 สถาบันยังได้รับการยอมรับและเป็นมหาวิทยาลัยยอดนิยมของไทยอีกด้วย
เกษตรศาสตร์ มหิดล ศิลปากร
"ศาสตร์แห่งแผ่นดิน ปัญญาของแผ่นดิน ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น"






วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553





คำขวัญวันเด็กปี 53
“คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม”


วันเด็กแห่งชาติ






มีต้นกำเนิดมาจากการที่องค์การสหประชาชาติทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้

ความสำคัญแก่เด็ก ๆ โดยในปี พ.ศ. 2498 นายวี เอ็ม กุล ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิการเด็กระหว่าง



ประเทศ ได้เป็นผู้เสนอต่อกรมประชาสงเคราะห์ ให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้






เห็นความสำคัญ และความต้องการของเด็ก รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของ






ตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ